วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562

ภาพลูกค้าที่ใช้บริการ

ภาพลูกค้าที่ใช้บริการ อิ่มอุ่นนมแม่หาดใหญ่

มาจากหลากหลายพื้นที่ ปัตตานี ตรัง สตูล พัทลุง นครศรีฯ และพื้นที่หาดใหญ่ และใกล้เคียง
















                     
             








ประมวลภาพ


  • ภาพตู้แช่นมแม่ให้เช่า ขนาด 3.7 Q และ 7 Q


ข้อควรรู้เมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ข้อควรรู้เมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
๑.      การเติบโตของเด็กกินนมแม่ จะแตกต่างจากเด็กกินนมผสม  ทั้งนี้ เด็กที่ได้กินนมแม่อย่างเหมาะสม จะเติบโตเร็วในช่วงแรก โดยเฉลี่ย ประมาณ ๖ เดือน จากนั้น การเติบโตของเด็กกินนมแม่หลายคน จะช้ากว่า เด็กที่กินนมผสม  อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังเขียนข้อมูลนี้ กำลังอยู่ในระหว่างที่องค์การอนามัยโลก และ บุคลากรทางสาธารณสุขในประเทศไทยหลายท่านกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาทำแผนผังการเติบโตของเด็กกินนมแม่ (Growth Chart) ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อน  (แผนผังการเติบโตของเด็กที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นแผนผังการเติบโตของเด็กที่กินนมมสม)
๒.    แม่ทุกคนมีปริมานน้ำนมมากพอที่จะเลี้ยงลูก อย่ากังวลหากแม่บีบน้ำนมแม่ไม่ออกใน ๒  ๓ วันแรกหลังคลอด  เพราะในระยะนี้ น้ำนมแม่ยังมีปริมาณมากนัก แต่จะมีมากพอสำหรับลูก  ขอเพียงแค่ คุณแม่ตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  เชื่อมั่นว่าตนเองต้องมีน้ำนมพอ  ทำตัวเองให้ผ่อนคลายไม่เครียด  พยายามอดทนต่อความเหนื่อยที่ให้ลูกดูดนมทุก ๒- ๓ ชั่วโมง  อดทนต่ออาการเจ็บหรือเสียวมดลูกขณะลูกกำลังดูดนม เพราะ ฮอร์โมนอ็อกซิโตซิน ที่ช่วยเพิ่มสัญชาตญานความเป็นแม่ จะส่งผลทำให้มดลูกหดตัวเช่นกัน
๓.    เทคนิคสำคัญสู่ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  คือให้ลูก ดูดเร็ว โดยให้ลูกดูดทันทีในห้องคลอด   ดูดบ่อย ทุก ๒  ๓ ชั่วโมง   ดูดถูกวิธี คือปากลูกงับให้ถึงลานนม สังเกตได้จากปากลูกจะบาน คางลูกแนบหน้าอกแม่ ดั้งจมูกชิด หรือเกือบชิดหน้าอกแม่
๔.    เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ๖ เดือนแรก ไม่ต้องกินน้ำ หรืออาหารอื่น เป็นข้อแนะนำของ องค์การอนามัยโลก ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ  ซึ่งได้จากการรวบรวมผลวิจัยจากประเทศต่างๆ  และสรุปเป็นข้อแนะนำในคู่มือการให้อาหารทารก ( Global Strategy of Infant and Young Child Feeding ) เมื่อปี ๒๕๔๖ ว่า  ทารกแรกเกิดทุกคนควรได้กินนมแม่อย่างเดียวไปจนอายุครบ ๖ เดือน แล้ว จึงให้นมแม่ร่วมกับน้ำ และอาหารอื่นที่เหมาะสมตามวัย จนลูกอายุ ๒ ปี หรือ นานกว่านั้น โดยอาหารเสริมที่จัดให้ลูกควรเป็นอาหารที่ผลิตเองในครัวเรีอน  สำหรับการให้นมแม่โดยไม่ให้น้ำ ซึ่งขัดแย้งกับวิธีปฏิบัติของแม่ส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้น เหตุผลสำคัญที่ไม่จำเป็นต้องให้ลูกกินน้ำ คือ ในนมแม่มีน้ำเป็นจำนวนมากพอที่เด็กต้องการ  และ การให้เด็กกินน้ำหลังจากกินนมแม่จะลดสารต้านการอักเสบที่มีในนมแม่ เพราะน้ำจะไปล้างสารต้านการอักเสบที่ลูกได้รับจากการกินนมแม่ที่เคลือบในปากลูกหลังจากลูกกินนมแม่
๕.    ไม่จำเป็นต้องเช็ดถู ทำความสะอาดหัวนมก่อนให้ลูกดูดนมแม่  แต่ ควรจะดูว่าหัวนมตนเองมีขนาดสั้น ยาว หรือใหญ่กว่าปกติ ขณะตั้งครรภ์  เพราะหัวนมที่สั้น ยาว หรือใหญ่กว่าปกติอาจทำให้ลูกดูดนมแม่ได้ไม่ค่อยถนัด  ทั้งนี้หากแม่มีความยาวหัวนมสั้นกว่าปกติ สามารแก้ไขได้ขณะตั้งครรภ์ เพื่อให้ลูกดูดนมแม่ได้ง่ายหลังคลอด  ( ความยาวหัวนมปกติ คือ ๐.๕  ๑ เซนติเมตร )
๖.     แม่ที่ติดเชื้อ HIV ไม่ควรให้ลูกกินนมแม่  เพื่อลดโอกาสการผ่านเชื้อ HIV จากแม่สู่ลูก
๗.    การใช้มือบีบน้ำนมเก็บไว้ให้ลูก ดีกว่าใช้เครื่องปั๊มนม  เพราะนอกจากจะสะดวก และ ประหยัดแล้ว การบีบน้ำนมด้วยมือ จะทำให้ได้ปริมาณน้ำนมที่มากกว่าการใช้เครื่องปั๊ม
๘.    โดยทั่วไป  แม่ที่ให้ลูกดูดนมแม่ จะมีรูปร่าง และ น้ำหนักกลับมาเป็นปกติเหมือนตอนก่อนท้อง เมื่อลูกอายุ ประมาณ ๖ เดือน  ดังนั้น แม่ไม่จำเป็นต้องลดปริมาณอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก  แต่หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่จะทำให้แม่อ้วนเท่านั้น

 ที่มา : www.nommae.org

ข้อควรระวังเมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ข้อควรระวังเมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

๑.      การเลี้ยงลูกไม่ถูกวิธี เพราะจำกัดการโต้ตอบกับเด็กไว้เพียงการอุ้มลูกมาดูดนมแม่เท่านั้น คุณแม่มือใหม่หลายท่าน จะมีความรู้สึกเป็นห่วงกลัวลูกไม่อิ่ม ดังนั้น เมื่อลูกตื่น หรือ ร้อง จะคอยเอาลูกมาอุ้ม และ ให้กินนมแม่โดยลืมปล่อยลูกวางไว้กับเบาะเพื่อให้ฝึกคืบ หรือพลิกคว่ำพลิกหงาย  รวมถึงไม่ได้ฝึกให้ลูกคว้าของ จับของ หรือ สิ่งต่างๆรอบตัว  ดังนั้น ความฉลาดที่ลูกได้มาจากพ่อแม่ และ ได้เสริมจากการการกินนมแม่ เมื่อไม่ได้รับการฝึกฝน ก็จะไม่ได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพตามที่ควรจะเป็น ทำให้ดูเหมือนเด็กกินนมแม่บางคน พัฒนาการช้ากว่าปกติ
๒.    หัวนมแตก ขณะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะ ท่าอุ้มไม่ถูกวิธีขณะให้ลูกดูดนม  คุณแม่ที่ให้ลูกดูดนมแม่ แล้วพบว่า ต่อมา เกิดมีแผลที่หัวนม ให้ระวังว่าจะเกิดจากการให้ลูดดูดนมโดยปากลูกงับไม่ถึงลานนม ทำให้เกิดการเสียดสีของเหงือกลูก กับผิวหนังที่นมแม่ขณะที่ลูกดูดนมแม่  วิธีแก้ คือ ประคองคอลูก แล้วส่งศีรษะลูกมาให้ชิดกับหน้าอกแม่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ปากลูกงับลานนม จะช่วยลดโอกาสการมีแผลเพิ่มที่หัวนม  สำหรับผิวหนังแม่ที่เป็นแผลไปแล้วนั้น รักษาโดยเอาน้ำนมแม่มาป้ายที่แผล แล้วผึ่งให้แห้ง ทำซ้ำได้เป็นระยะ จนกว่าแผลจะหาย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาทา หรือ ยากินแก้อักเสบ

สิ่งที่ควรปฏิบัติในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
๑.      การดูแลตัวเองของแม่  ทั้ง อาหารกาย  อาหารใจ  การดูแลตัวเองของแม่ขณะให้นมลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะ ความเหนื่อย  ความหิว  และ ความเครียด จะทำให้การผลิตน้ำนมลดลง  ดังนั้น ควรกินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ โดยมีปริมาณอาหารที่กินแต่ละมื้อ มากกว่าปริมาณอาหารที่แม่กินก่อนท้องประมาณ ๑ เท่าครึ่ง  ในกรณีที่แม่น้ำหนักตัวปกติตอนก่อนท้อง (ไม่อ้วน หรือ ผอมเกินไป )  ควรกินน้ำ โดยเฉพาะน้ำอุ่นเป็นระยะ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม โดยอาจจะดื่มน้ำ ๑ ถ้วย ก่อนมื้อที่ลูกจะดูดนมแม่ หรือ ก่อนแม่บีบน้ำนม  พยายามทำจิตใจให้ผ่อนคลายไม่เครียด  ด้วยวิธีที่ตนเองถนัด เช่น ฟังเพลง เป็นต้น เพื่อช่วยให้การผลิตน้ำนมแม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
๒.     บีบน้ำนมแม่เก็บไว้ ทุกครั้งที่หน้าอกคัด ในกรณีที่ลูกไม่สามารถดูดนมแม่ได้ เพื่อช่วยให้เกิดการผลิตน้ำนมแม่อย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา
๓.    ฝึกการให้ลูกดูดนม ทั้งท่านั่ง และ ท่านอน  เพื่อช่วยให้แม่ไม่ต้องทรมานกับการนั่งให้นมลูกในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่คุณแม่เองก็ง่วงเช่นกัน
๔.    เอื้อโอกาสสามีเข้ามามีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูก คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ มีแนวโน้มจะกอดลูกไว้กับตัวอยู่แล้ว  ดังนั้น ในกลุ่ม แม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ จึงมีความพร้อมจะอุ้มลูกไว้กับอกตัวเองนานกว่าปกติ  และ โดยธรรมชาติของเด็กที่ดูดนมแม่ระยะแรก จะนอนหลับทันทีเมื่อกินอิ่มและ ตื่นบ่อยเพราะหิว   จึงควรเปิดโอกาสให้คุณพ่อเข้ามามีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูกตั้งแต่แรก ด้วยการสัมผัสลูก พูดคุยกับลูก และ เล่นกับลูก เวลาที่ลูกตื่น และ รอที่จะกินมื้อใหม่  นอกจากนี้ การที่คุณพ่อเข้ามาช่วยดูแลแม่ เช่น นวดหลัง นวดคอ และ นวดไหล่แม่ เป็นต้น จะช่วยสร้างความผ่อนคลายในตัวแม่ และ พร้อมที่จะอุ้มลูกให้ดูดนมแม่อย่างไม่ย่อท้อ
                                                                                       
 ที่มา : www.nommae.org

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ความคาดหวังของลูกน้อย

ความคาดหวังของลูกน้อย



ในฐานะแม่มือใหม่ เรามักคาดหวังว่าจะเลี้ยงลูกตามวิธีที่เราเรียนรู้กันมา ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ แต่ “ความคาดหวัง” ของทารกไม่ใช่อะไรที่ได้มาจากการเรียนรู้ มันเกิดขึ้นจากสัญชาตญาณที่ยังคงเหมือนเดิมไม่แตกต่างอะไรไปจากเมื่อพัน ๆ ปีที่แล้ว ทารกไม่ได้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างที่เราเข้าใจ ทารกมีทักษะชั้นสูงติดตัวมาเพียงพอสำหรับโลกที่เขา “คาดว่า” จะเจอเมื่อถือกำเนิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นเมื่อเราไปเปลี่ยนแปลงอะไรในโลกใบนั้น ก็คือการที่เราไปทำให้ชีวิตของทารกยากลำบากมากขึ้นนั่นเอง นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณกับลูกจะต้องกลับไปใช้ชีวิตในถ้ำอะไรแบบนั้น เพียงแต่ถ้าคุณรู้ว่าลูกของคุณ “คาดหวัง” อะไรในช่วงเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วล่ะก็ มันก็จะช่วยอะไร ๆ ได้เยอะทีเดียว

ช่วงคลอด ลูกคาดหวังว่าร่างกายของเขาจะไม่ต้องประสบปัญหาจากยาอะไรก็แล้วแต่ที่ได้รับเข้าไป ยาที่ออกฤทธิ์กับคุณแค่สองสามชั่วโมงอาจจะสร้างปัญหาให้ลูกได้เป็นวัน ๆ ทำให้เขาไม่สามารถดูดนมได้ดีหรือบ่อยเท่าที่ควร ถ้าคุณต้องตัดสินใจในเรื่องการใช้ยาระหว่างคลอด ระลึกไว้เสมอว่าการตัดสินใจของคุณอาจส่งผลกระทบตรงนี้ด้วย

ทันทีหลังคลอด ลูกคาดหวังว่าจะได้อยู่กับคุณ หลังจากเขาใช้เวลาซักพักข้าง ๆ คุณเพื่อให้ชินกับการหายใจ การมองเห็น และการได้ยินซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขาแล้ว อันดับถัดไปลูกจะเริ่มนึกถึงอาหารมื้อแรก และจะสามารถคลานในท่าเดียวกับทหารเวลาฝึกภาคสนามขึ้นไปถึงอกคุณ ไซร้หาหัวนม และเริ่มดูดนมนาน ๆ ได้เองโดยไม่ต้องให้ใครช่วย แต่ถ้ามีใครมาแยกลูกไปจากคุณเพื่อทำความสะอาดหรือชั่งน้ำหนักก่อนที่จะมีโอกาสได้ดูดนมแม่ หรือลูกยังได้รับผลกระทบจากยาที่แม่ได้รับระหว่างการคลอด เขาก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ และปฏิกริยาตอบสนองของคุณต่อลูกก็จะแตกต่างออกไป โดยมากแล้วการให้นมแม่มักไม่มีปัญหา ไม่ว่ารูปแบบการคลอดจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่จะง่ายและดีที่สุดถ้าแม่และลูกได้อยู่ด้วยกันตลอดจนกว่าลูกจะได้ดูดนมครั้งแรก

หลังดูดนมแม่ครั้งแรก ลูกคาดว่าเขาจะได้นอนนาน ๆ ข้าง ๆ คุณหรือไม่ก็ในอ้อมแขนของคุณ เพราะเขาคุ้นเคยกับเสียงหัวใจและเสียงลมหายใจของแม่ และได้รับไออุ่นจากร่างกายของแม่มาตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา การให้ลูกได้อยู่กับแม่จึงช่วยให้ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจที่สม่ำเสมอขึ้นได้ ลูกอาจจะอยากนอนนานกว่าที่เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจะอยากให้นอน เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องการให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรผิดพลาดก่อนที่คุณจะกลับบ้าน คุณอาจจะต้องฝืนธรรมชาติซักนิดเพื่อกระตุ้นให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆ ในช่วงแรก แต่ไม่นานนักลูกก็จะสามารถตื่น ดูดนม และเลิกดูดเมื่อพอใจแล้วได้เอง เหมือน ๆ กับลูกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ

ที่บ้าน ลูกคาดหวังว่าจะได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณ ลูกอ่อนของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดมีวิธีปกป้องตัวเองจากภัยอันตราย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว การพรางตัว หรือการอยู่รวมกันเป็นฝูงจำนวนมาก ๆ ลูกมนุษย์ใช้วิธีการอยู่ใกล้ชิดกับแม่ ทารกจะรู้สึกปลอดภัยและสงบมากที่สุดเมื่อได้อยู่ข้าง ๆ แม่ ซึ่งเป็นที่ที่สัตว์ร้ายจะทำอันตรายเขาก็ไม่ได้ มดจะไต่ขึ้นมาบนตัวของเขาก็ไม่ได้ ลูกคาดหวังว่าเขาจะเป็นผู้กำหนดจังหวะการดูดนมของเขาเอง ลูกอาจจะดูดนมบ่อยเกินกว่าที่คุณคาดไว้ ดูดนมข้างหนึ่งจนเสร็จแล้วค่อยเริ่มดูดอีกข้าง หรือบางทีอาจจะไม่ต้องการดูดนมทั้งสองข้างในแต่ละมื้อ ลูกคาดหวังว่าคุณจะตอบสนองต่อเสียงของเขาอย่างรวดเร็ว และคาดหวังว่าจะไม่จำเป็นต้องร้องไห้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ ลูกคาดหวังว่าจะได้อยู่ใกล้ ๆ คุณทั้งกลางวันและกลางคืน และอาจจะนอนหลับได้ดีกว่าถ้าคุณนอนอยู่ข้าง ๆ ลูกของคุณคาดหวังว่าจะได้อยู่ในอ้อมแขนของคุณ และคุณจะรับฟังสิ่งที่เขาสื่อสาร ไม่ใช่เชื่อตามนาฬิกาหรือหนังสือคู่มือการเลี้ยงลูก ถ้าคุณตอบสนองความต้องการของเขาได้ สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือเด็กทารกอารมณ์ดีคนหนึ่ง และนั่นก็หมายถึงความสุขของทั้งแม่และลูกนั่นเอง

Cr.https://www.breastfeedingthai.com/ความคาดหวังของลูกน้อย.html

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

โดย  แพทย์หญิงสุวิมล  ชีวมงคล
(  กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก)

ข้อดีของ การเลี้ยงลูกด้วย นมแม่
การเลี้ยงลูกด้วย นมแม่  ไม่ใช่เป็นเพียงการให้อาหารเพื่อให้ลูกอิ่ม และ ช่วยให้ลูกเติบโตเท่านั้น  แต่  การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  เป็นเรื่องของกระบวนการส่งเสริมพัฒนาการ และ การเจริญเติบโตของเด็กอย่างมีคุณภาพ  ซึ่งจะช่วยเอื้อโอกาสให้เด็กกลายเป็นผู้มีบุคลิกภาพที่ดี  ความเป็นผู้มีจริยธรรม อดทน อดกลั้น และ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น อันเนื่องมาจาก

๑. สารอาหารใน นมแม่ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างเหมาะสม ตามอายุลูก ซึ่งจะช่วยให้ลูกฉลาด และ แข็งแรง  สารอาหารสำคัญ คือ ไขมันใน นมแม่ ที่จะไปห่อหุ้มเส้นใยประสาทในสมองเด็กที่กำลังเพิ่มการเชื่อมโยงการทำงานอย่างรวดเร็ว  เพื่อให้การทำงานของสมองเด็กสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  โปรตีนใน นมแม่ ที่จะช่วยลดโอกาสการเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็ก  สารต้านการอักเสบใน นมแม่  ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ และไม่สบายของเด็ก ทำให้เด็กไม่ต้องเสียโอกาสของการพัฒนาความสามารถไปกับความเจ็บป่วย   ซึ่งสารอาหารดังกล่าวทั้งหมด ไม่สามารถจะถูกทดแทนได้ด้วย นมผสม

๒. สัญชาตญาณความเป็นแม่ที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มระดับของฮอร์โมนอ็อกซิโตซิน ( Oxytocin ) ในตัวแม่ขณะที่ลูกกำลังดูดนมจากอกแม่ที่จะช่วยให้แม่เป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยน เปี่ยมด้วยความรักและเมตตา อันเนื่องมาจากความรู้สึกสงบ  เป็นสุข  เปี่ยมด้วยความรัก ที่แม่มีต่อลูก ที่เกิดขึ้นมากกว่าปกติในตัวแม่ขณะลูกกำลังดูด นมแม่ ซึ่งเด็กจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกอ่อนโยน ทำให้เด็กอารมณ์ดี และ เป็นสุข

๓.  กระบวนการโอบอุ้ม และ โต้ตอบ ระหว่างแม่และลูก ขณะลูกดูดนมจากอกแม่ ที่จะปูพื้นฐานสำคัญของกระบวนการเรียนรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างเหมาะสม ในเด็ก  เพราะขณะที่ลูกดูดนมจากอกแม่  ลูกจะสบตาแม่ เป็นการสื่อสารสำคัญที่ถ่ายทอดผ่านการมองเห็นในระยะที่เหมาะสม เพราะช่วงแรกเกิด การมองเห็นของเด็ก จะเหมือนคนสายตาสั้น ซึ่งจะค่อยๆ เปลี่ยนระดับการมองเห็นไปเป็นระดับปกติเมื่อเด็กอายุ ๑ ปี  นอกจากนี้ ขณะที่ลูกกำลังดูด นมแม่ มือลูกจะสัมผัสกับผิวแม่  จมูกลูกจะได้กลิ่นกายแม่  ลิ้นของลูกจะได้รับรส น้ำนมแม่ ร่วมกับความรู้สึกอิ่ม  สบาย และ ผ่อนคลาย ขณะที่หูของลูกจะได้ยินเสียงที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัว  ดังนั้น ประสาทสัมผัสทุกส่วนของเด็กจะถูกกระตุ้นให้เกิดการทำงาน  บนความรู้สึกดีๆที่แม่ถ่ายทอดสู่ลูก อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการสังเกต และ โต้ตอบอย่างเหมาะสมของเด็ก

ข้อดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ได้หยุดอยู่ที่ตัวเด็ก ที่ช่วยให้เด็ก ฉลาด แข็งแรง ลดโอกาสการเป็นโรค และ มีความพร้อมต่อการพัฒนาเป็นผู้มีจริยธรรมที่ดี จิตใจอ่อนโยน และ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นเท่านั้น  แต่ยังส่งผลโดยตรง ถึงแม่ ครอบครัว  สังคม และ ประเทศ  กล่าวคือ  แม่ จะลดโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านม  ครอบครัวจะมีความสุขอันเนื่องมาจากการเป็นเด็กแข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี  ไม่ต้องเปลืองเงินไปกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลูก  และ การซื้อนมผสม สังคม จะเปี่ยมไปด้วยคนที่มีจิตใจดี และ มีความสามารถเต็มตามศักยภาพ  ในขณะที่ประเทศมั่นคง เพราะสังคมดี และ เศรษฐกิจดี

ที่มา : www.nommae.org

ภาพลูกค้าที่ใช้บริการ

ภาพลูกค้าที่ใช้บริการ อิ่มอุ่นนมแม่หาดใหญ่ มาจากหลากหลายพื้นที่ ปัตตานี ตรัง สตูล พัทลุง นครศรีฯ และพื้นที่หาดใหญ่ และใกล้เคียง ...